อิทธิพลเชิงบวก เพิ่มพลังความสุข
January 15th, 2015
การทางานในทุกวันนี้เราต่างมีความกดดันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราต้องเผชิญกับการแก้ปัญหา ความขัดแย้งต่างๆไม่ว่าจะเป็นทั้งในเรื่องการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจากัด การส่งมอบงานให้ได้ตรงตาม กาหนดเวลา การให้ได้มาซึ่งผลลัพท์ที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้อื่นและการบริหารคนที่มีความคิดแตกต่างในความท้าทายเหล่านี้ ล้วนนามาซึ่งความเหนื่อยล้าและบั่นทอนกาลังใจ ทาให้ขาดพลัง ขาดซึ่ง ความสุขหมดประสิทธิภาพในการทางานและการใช้ชีวิต สุดท้ายแล้วองค์กรก็จะสูญเสียคนทางานซึ่งเป็นกาลัง สาคัญ ของธุรกิจไปอย่างน่าเสียดาย องค์กรที่ประสบความสาเร็จอย่างยั่งยืนได้ จาเป็นต้องมีคนทางานที่รู้ วิธีการบริหารตนเองและการบริหารคนอื่นอย่างสร้างสรรค์
คนเหล่านี้จะรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เขาควบคุมและ บริหารได้ เขาจะใช้พลังส่วนใหญ่ไปกับสิ่งเหล่านี้ และจะจำกัดสิ่งที่เขาควบคุมไม่ได้ ให้เหลือน้อยที่สุด เขา เหล่านี้เชื่อว่าตนเป็นผู้กาหนดและเลือกทางเดินชีวิตเอง ดังนั้นเขาจะรู้ว่าเขาต้องการอะไร จากใคร และต้องทา อย่างไรให้ได้มา เขาจะสามารถสร้างความสมดุลระหว่าง ความต้องการทั้งของตนเองและของผู้อื่นโดยที่ สามารถทาให้ผู้อื่นยอมรับ และท้ายที่สุดเขาจะประสบความสาเร็จสูงสุดตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ดี การ ให้ได้มาซึ่งผลลัพท์ที่ต้องการ โดยที่คนอื่นยังคงรักและชื่นชอบนั้น ฟังดูเหมือนง่าย แต่ความจริงแล้วท้าทายเป็น อย่างยิ่งเพราะ “คนเหมือนกันแต่ไม่เหมือนกัน” แต่ละคนมีรูปแบบพฤติกรรมแตกต่างกัน คนบางคนได้มาซึ่ง ผลลัพท์ที่ต้องการ ก็ต่อเมื่อได้ทาลายความสัมพันธ์ที่มีค่าทิ้งไป ดังนั้นคนที่เข้าใจในความต่างและสามารถ บริหารความต่างเหล่านี้ได้ คือคนที่รู้จักนำพลังและอิทธิพลที่มีออกมาใช้กับคนอื่นในทางบวก ซึ่งจะทาให้เขามี โอกาสประสบความสาเร็จ มีความสุขในการทางานและการดำเนินชีวิต เช่นกัน
องค์กรใดมีคนส่วนใหญ่ที่มีพลัง และอิทธิพลเชิงบวกสะสมอยู่ในตัว องค์กรนั้นก็มีโอกาสที่จะประสบความสาเร็จร่วมกันไปทั้งคนและองค์กร คนเราทุกคนมีพลังอยู่ในตัว ไม่ว่าจะเป็นทางกายภาพ ทางความคิด หรือทางอารมณ์ หากแต่หลายคน ไม่รู้จักนาพลังที่มีอยู่ออกมาใช้ หรือไม่ได้ทาให้เป็นพฤติกรรมที่เป็นประโยชน์สร้างสรรค์ในทางบวก ไม่ว่าจะ เป็นความคิดที่ดีแต่เกบ็ ไว้ไม่พูดออกมาให้คนอื่นรับรู้ ไม่มีการปฏิบัติให้เกิดเป็นผลงาน คนที่ไม่ช่วยเหลือคนอื่น แม้มีร่างกายหรือความรู้ที่พร้อม คนที่มองทุกสิ่งรอบตัวในแง่ลบและทาตัวต่อต้านสังคม เหล่านี้เป็นตัวอย่าง ที่ทาให้คนที่มีความคิดและพฤติกรรมเชิงลบ ไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในสิ่งที่ตนต้องการ รวมถึงไม่มี ความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นอย่างยั่งยืน บทความโดย ศูนย์การเรียนรู้ M academy
การทำให้คนรู้จักใช้พลังและอิทธิพลในเชิงบวก จึงถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งไม่ใช่แค่ ในแง่ธุรกิจ แต่ยังรวมไปถึงการช่วยให้คนๆหนึ่งได้เห็นคุณค่าของตนเอง ได้เป็นคนดี คนเก่ง มีคุณภาพจากตัวตน ของเขาเอง เป็นที่ศรัทธาของคนรอบข้าง ไม่ว่าเขาจะอยู่ในฐานะหรือตาแหน่งอะไร พลังและอิทธิพลเชิงบวกมีความสาคัญยิ่งกับทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้นาซึ่งสามารถสร้าง ผลกระทบต่อผู้อื่นในวงกว้าง ทั้งภายในองค์กรเองและภายนอกองค์กร ทั้งในทางตรงและทางอ้อม ผู้นาคือผู้ กาหนดแนวทางและเป็นต้นแบบให้กับคนร้อบข้าง ถ้าผู้นาสามารถใช้ความสามารถความรู้ทักษะในการใช้พลัง และอิทธิพลต่อผู้อื่นได้ในทางสร้างสรรค์ ก็จะสามารถนาพาคนในองค์กรไปสู่ความสาเร็จและมีความสุขในการ ทางานร่วมกัน แต่หากผู้นาใช้ไปในทางตรงกันข้ามองค์กรก็จะไม่มีความสุข ขาดประสิทธิภาพ ไม่สามารถ แข่งขันกับผู้อื่นในโลกปัจจุบันได้
การใช้พลังและอิทธิพลไปในทางบวก ไม่เพียงแต่ช่วยทุกคนให้ประสบความสาเร็จ และมีความสุขใน การทางานเท่านั้น หากแต่ยังสามารถประยุกต์ใช้กับชีวิตส่วนตัว กับครอบครัวเพื่อนฝูง เพื่อนบ้าน และคนที่อยู่ บนโลกใบเดียวกัน เราสามารถเริ่มจากตัวเราเอง เราเลือกกาหนดชีวิตเราได้ เราเลือกที่จะตอบสนองทุกอย่างที่ เข้ามาในชีวิตไปในทางสร้างสรรค์ได้ สุดท้ายแล้วเราจะภูมิใจที่ได้เป็นคนดีที่มีความสามารถ มีคุณภาพมี ประโยชน์ เป็นที่รักใคร่ของสังคมและผู้คนรอบข้าง
บทความโดย ศูนย์การเรียนรู้ M academy